เคลลี่ ซึ่งเพิ่งย้ายจากนิวคาสเซิลในซัมเมอร์นี้ กลายเป็นฮีโร่ แม้ก่อนหน้านี้จะทำแฮนด์บอลเสียจุดโทษให้ดอร์ทมุนด์นำ 4-2 แต่เจ้าตัวแก้ตัวด้วยการโหม่งประตูสำคัญจากการเปิดของ ดูซาน วลาโฮวิช หลังหัวหอกเซอร์เบียเพิ่งยิงตีตื้น 3-4 ในนาที 90+4

นี่ถือเป็นเพียงเกมที่สองในประวัติศาสตร์แชมเปียนส์ลีกที่มีการยิงกันถึง 8 ประตูในครึ่งเดียว ต่อจากเกมบาเยิร์น มิวนิก ถล่ม ดินาโม ซาเกร็บ 9-2 ฤดูกาลก่อน

เกมพลิกไปมาจนหยุดหายใจ

หลังครึ่งแรกไร้สกอร์ ความมันส์เริ่มในนาที 51 เมื่อ คาริม อเดเยมี ยิงเสียบมุมให้ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 แต่ไม่นาน เคนัน ยิลดิซ กดไกลสุดสวยตีเสมอ 1-1 อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ได้คืนทันทีจาก เฟลิกซ์ เนเมชา ที่ซัดโค้งเสียบสามเหลี่ยม

วลาโฮวิชยิงตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 แต่ทีมเยือนยังไม่ยอมง่าย ๆ เมื่อ ยาน คูโต้ สอดขึ้นมายิงหนีมือผู้รักษาประตูยูเว่เข้าเสาแรก ดอร์ทมุนด์นำ 3-2 และจากนั้น รามี่ เบนเซไบนี่ ยิงจุดโทษให้เสือเหลืองหนี 4-2

ทว่าทุกอย่างยังไม่จบ ยูเวนตุสได้วลาโฮวิชยิงชนเสาเข้าในช่วงทดเจ็บ ก่อนเจ้าตัวเปิดให้เคลลี่โหม่งปิดฉากเกมสุดมันส์ 4-4

เสียงจากผู้จัดการทีม

อีกอร์ ทูดอร์ กุนซือยูเว่ กล่าวหลังเกมว่า: “คุณจะอธิบายยังไงกับ 8 ประตูในครึ่งหลัง? ฟุตบอลมันไม่เคยจบจนกว่าจะหมดเวลา และเราทำได้ดีที่เชื่อมั่นจนวินาทีสุดท้าย”

ด้าน เซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการกีฬาดอร์ทมุนด์ กล่าวว่า: “ทั้งสองทีมเล่นครึ่งหลังได้อย่างยอดเยี่ยม เกมเปิดแลกสนุก แม้ผลลัพธ์สุดท้ายจะเจ็บปวด แต่ก็เป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนบอล”