หลังเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมนีเตรียมลงประเดิมสนามพรีเมียร์ลีกในเกมเปิดซีซัน พบ บอร์นมัธ ที่แอนฟิลด์ วันศุกร์นี้

ลิเวอร์พูลทุ่มสถิติสโมสร 100 ล้านปอนด์ (อาจเพิ่มเป็น 116 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไข) คว้าตัวเวิร์ตซ์จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยสลอตมองว่ามีศักยภาพที่จะเป็นการเซ็นสัญญาระดับเปลี่ยนโฉมทีม เช่นเดียวกับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ หากยึดความสม่ำเสมอเหมือนซาลาห์ ซึ่งครองสถิติยิง 9 ประตูจาก 7 เกมเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก

“สิ่งสำคัญคือการรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตทุกนัด เหมือนที่ เมสซี่, โรนัลโด้ และโม ทำได้” สลอตกล่าว “ถ้าเวิร์ตซ์ทำได้ในลีกของเรา แฟน ๆ จะได้เห็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมแน่นอน”

สลอตปฏิเสธมุมมองที่ว่า เวิร์ตซ์ เป็นการเซ็นสัญญาเชิงประกาศศักดา โดยชี้ว่าสโมสรเคยลงทุนมหาศาลกับนักเตะสำคัญมาก่อน “ลิเวอร์พูลเคยทำแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอลิสซอนหรือเวอร์จิล นี่คือระดับการลงทุนปกติของสโมสร แต่เมื่อซื้อเราก็ต้องขายเพื่อรักษาสมดุล”

นอกจากเวิร์ตซ์ ลิเวอร์พูลยังเสริมทัพหนักในซัมเมอร์นี้ รวมมูลค่าเกิน 300 ล้านปอนด์ โดยเตรียมคว้า โจวานนี เลโอนี กองหลังวัย 18 ปีจากปาร์มาด้วยค่าตัวเริ่มต้น 26 ล้านปอนด์ และยังเล็ง มาร์ก เกฮี กับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค เพิ่มเติม

สลอตยอมรับว่าเป็นซัมเมอร์แห่งการเปลี่ยนแปลง หลังเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ควิวีน เคลเลเฮอร์, จาเรลล์ ควานซาห์ รวมถึงสถานการณ์ของ หลุยส์ ดิอาซ และดาร์วิน นูนเญซ ที่ทำให้ต้องหาตัวแทน “จากตัวเลือกที่มี เราได้ทุกคนที่ต้องการดึงเข้ามา ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก” สลอตกล่าวทิ้งท้าย.