เพื่อเป็นหัวหอกเบอร์ 9 ที่สโมสรต้องการมานาน โดยเจ้าตัวเตรียมประเดิมสนามนัดแรกในเกมเปิดบ้านพบอาร์เซนอลวันอาทิตย์นี้

ย้อนกลับไป เชชโก้เคยเป็นเป้าหมายของยูไนเต็ดตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับดอมซาเล่ในปี 2019 และอีกครั้งเมื่อเตรียมย้ายออกจากเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์กในปี 2022 ก่อนสุดท้ายเลือกไปไลป์ซิกแทน เขามีเส้นทางที่ถูกเปรียบเทียบกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทั้งในเรื่องความสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว ร่างกายแข็งแกร่ง และความเร็วจัด แต่สไตล์การเล่นต่างกัน เชชโก้เน้นเกมเชื่อมเพื่อน วิ่งทำทาง และมีส่วนร่วมในเกมรุกมากกว่าเป็นเพียงเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษ

ผลงานกับไลป์ซิกทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าที่มีความสม่ำเสมอในลีกใหญ่ยุโรป ยิง 13 ประตูในบุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุด แม้จะมีช่วงฝืดสองครั้งรวมกว่า 12 สัปดาห์ แต่จุดเด่นอย่างพละกำลัง ความเร็ว ลูกยิงหนัก การหนีตัวประกบ และการเล่นลูกกลางอากาศ ทำให้เขาถูกมองว่าเหมาะกับพรีเมียร์ลีก

แม้ มิเกล อาร์เตต้า เคยให้ความสนใจ แต่การที่อาร์เซนอลหันไปโฟกัส วิคตอร์ เยอเกอร์เรส เปิดทางให้ยูไนเต็ดกลับมาล่าตัวอีกครั้ง ท่ามกลางข้อสงสัยจากบางฝ่ายว่าการย้ายมาเล่นให้ทีมที่ไม่มีฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้จะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่

รูเบน อาโมริม กุนซือยูไนเต็ด เชื่อว่าเชชโก้มีทั้งฝีเท้าและทัศนคติที่จะประสบความสำเร็จ หลังจากช่วงปรีซีซันได้ปรับทีมตามแผนของตน โดยผลงานและบุคลิกในช่วงอยู่ไลป์ซิกได้รับคำชื่นชมจาก มาร์เซล แชเฟอร์ ผู้อำนวยการกีฬา ว่า “เป็นการสูญเสียทั้งในเชิงกีฬาและส่วนตัว”

การแจ้งเกิดของเชชโก้ในพรีเมียร์ลีกอาจเป็นก้าวสำคัญในการพลิกสถานะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้กลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์อีกครั้ง.