พาเลซดับโทษลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

คริสตัล พาเลซ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งแรก หลังดวลจุดโทษเอาชนะลิเวอร์พูลได้สำเร็จ แม้ “หงส์แดง” จะทุ่มเกือบ 300 ล้านปอนด์เสริมทัพในซัมเมอร์นี้ก็ตาม
เกมที่เวมบลีย์ ลิเวอร์พูลของ อาร์เน่ สลอต ได้สองประตูจาก ฮูโก้ เอกิติเก้ และ เยเรมี ฟริมปง โดยมี ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ โชว์ฟอร์มเด่น แต่พาเลซของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ สู้ได้อย่างเหนียวแน่น ไล่ตีเสมอสองครั้งจาก ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (จุดโทษ) และ อิสไมลา ซาร์ ก่อนจบ 90 นาทีเสมอ 2-2
ช่วงดวลจุดโทษ ลิเวอร์พูลพลาด 3 คนรวด ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ทำให้ จัสติน เดเวนนีย์ ตัวสำรอง ยิงปิดบัญชีให้พาเลซชนะและชูถ้วยอย่างยิ่งใหญ่
นี่ถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งของพาเลซ หลังเพิ่งคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลก่อน และยังรอผลอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก (CAS) เกี่ยวกับการถูกตัดสิทธิ์จากยูโรปาลีก ซึ่งจะทราบผลในวันจันทร์นี้
เกมนี้ ลิเวอร์พูลขาด ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่เพิ่งได้ลูกคนใหม่ แต่ผู้เล่นใหม่ทั้ง เอกิติเก้, ฟริมปง, มิลอส เคอร์เคซ และ เวิร์ตซ์ ได้ลงตัวจริงทันที โดย เวิร์ตซ์ และ เอกิติเก้ ประสานงานกันทำประตูแรกตั้งแต่นาทีที่ 4 ก่อนที่พาเลซจะตีเสมอจากจุดโทษของมาเตต้า ฟริมปงยิงให้ลิเวอร์พูลนำอีกครั้ง แต่ซาร์มาซัดตีเสมอท้ายเกม
แม้ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะไม่ทำให้สลอตวิตกมากนัก เนื่องจากมีเพียง 8 ทีมในยุคพรีเมียร์ลีกที่คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ แล้วได้แชมป์ลีก แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวรับใหม่ของลิเวอร์พูลยังมีช่องโหว่ ก่อนเปิดฤดูกาลพบบอร์นมัธวันศุกร์นี้

