"เป๊ป x ลินเดอร์ส" ปฏิวัติแมนซิตี้! เปลี่ยนแนวทางสู่ฟุตบอลเกมรุกดุดันสไตล์คล็อปป์

แม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะใช้เงินกว่า 150 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพผู้เล่นถึง 5 รายในซัมเมอร์นี้ แต่ “การเซ็นสัญญาครั้งสำคัญที่สุด” ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจไม่ใช่นักเตะเลยด้วยซ้ำ เพราะมันคือการดึงตัว เป๊ป ลินเดอร์ส อดีตมือขวาคนสำคัญของเจอร์เก้น คล็อปป์ มาร่วมงานในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีม
ลินเดอร์ส คือเบื้องหลังการฝึกซ้อมและพัฒนาระบบแท็กติกของลิเวอร์พูลยุคคล็อปป์ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง “เกเก้นเพรสซิ่ง” และการเล่นเกมรุกในแนวลึก ซึ่งถือเป็น “ฝั่งตรงข้าม” กับสไตล์การเล่นแบบครองบอลและยึดตำแหน่งของกวาร์ดิโอล่าในอดีต
อย่างไรก็ตาม เป๊ป และ คล็อปป์ ต่างก็มีการหยิบยืมแนวคิดของกันและกันมาโดยตลอด ซึ่งการมาของลินเดอร์สในครั้งนี้ บ่งบอกว่า กวาร์ดิโอล่ากำลังเตรียม “ปรับทิศทาง” แท็กติกของทีมให้ตอบสนองกับฟุตบอลสมัยใหม่ที่เน้นจังหวะเกมเร็วและการเปลี่ยนสถานการณ์รวดเร็วมากขึ้น
เป๊ปยอมรับเองว่า “ฟุตบอลสมัยใหม่คือสิ่งที่ทีมอย่างบอร์นมัธ, นิวคาสเซิล, ไบรท์ตัน และลิเวอร์พูลเล่นอยู่ มันไม่ใช่ฟุตบอลครองบอลตำแหน่งอีกต่อไป แต่คือฟุตบอลที่ต้องเล่นตามจังหวะเกม”
สถิติก็สะท้อนภาพนั้นชัดเจน ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนซิตี้มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลลดลงจาก 65.5% เหลือ 61.3% แต่จำนวน “เกมสวนกลับเร็ว” เพิ่มขึ้นถึง 36% ขณะที่การเปิดบอลยาวจาก เอแดร์ซอน และการเลี้ยงทะลุไลน์จาก โอมาร์ มาร์มูช แข้งใหม่ของทีม ก็กลายเป็นอาวุธสำคัญในการเจาะแนวรับคู่แข่ง
ซิตี้ยังเสริมทัพด้วยผู้เล่นที่มีสไตล์ “ทะลุทะลวง” อย่าง รายาน แชร์กี้ (ลียง) และ ติจานี่ ไรจ์นเดอร์ส (เอซี มิลาน) ซึ่งเป็นนักเตะที่เน้นเลี้ยงบอลพาบอลขึ้นหน้า มากกว่าจะเล่นในระบบผ่านบอลสามเหลี่ยมเล็กๆ แบบเดิม
การเซ็นสัญญากับ รายาน เอต์-นูรี่ แบ็กซ้ายเกมรุกจอมเลื้อยจากวูล์ฟส์ ยิ่งตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงของเป๊ป หลังจากที่ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขามักเลือกใช้งานกองกลางหรือเซ็นเตอร์แบ็กมายืนแบ็กซ้ายเพื่อควบคุมเกม แต่เอต์-นูรี่ เป็นฟูลแบ็กที่เติมเกมรุกหนักที่สุดคนหนึ่งในยุโรป โดยเขาติดอันดับท็อปในสถิติเกมรุกแทบทุกด้านของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว
การจับคู่ของเอต์-นูรี่ กับ เจเรมี่ โดคู ทางฝั่งซ้าย หรือการผสานเกมรุกของ มาร์มูช และ แชร์กี้ ในพื้นที่กลางสนาม จะทำให้แฟนบอลซิตี้ได้เห็นทีมในมิติใหม่ที่ไม่เน้นการควบคุมจังหวะอย่างเข้มงวด แต่เป็นเกมรุกที่ดุดันและโจมตีเร็วกว่าเดิมอย่างแน่นอน
แม้จะยังมีคำถามอีกมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเดินหน้าเข้าสู่ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เวอร์ชั่น 2.0” ที่พร้อมจะเล่นฟุตบอลแบบ “ลินเดอร์ส-คล็อปป์” เต็มรูปแบบ และนี่อาจเป็น “ทางแยกที่หักมุมที่สุด” ในเส้นทางคุมทีมของเขาเลยก็เป็นได้

